Posted on 30 Jan 2023
2185 views เชื่อว่าเมนูไข่เค็มน่าจะเป็นหนึ่งในเมนูที่ใคร ๆ ก็ต้องชอบ ด้วยรสชาติของตัวไข่เค็มที่มีความมัน อีกทั้งยังสามารถนำไปประกอบทำเป็นเมนูต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย แต่ถึงแม้จะเป็นเมนูที่อร่อยสักแค่ไหน สิ่งนี้ก็อาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกเป็นกังวลใจอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่า คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม หรือไม่มั่นใจว่าเราสามารถกินได้ในปริมาณเท่าไหร่ หากใครที่กำลังเป็นกังวลใจอยู่ในตอนนี้แล้วล่ะก็ เรามาไขข้อสงสัยไปพร้อมกันเลยดีกว่า
คนท้องกินไข่เค็มได้ไหม? มาดูกัน
เมื่อพูดถึงเมนูที่มีไข่เค็มเป็นส่วนประกอบแล้วนั้น ต้องบอกก่อนนะคะว่าไข่เค็มเป็นสิ่งที่คุณแม่ท้องสามารถกินได้ แต่ในการกินนั้นเราอาจจะต้องกินแบบนาน ๆ กินที และไม่ควรกินในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะไข่เค็มค่อนข้างมีโซเดียมสูง และหากเมื่อไหร่ที่ร่างกายของคุณแม่ได้รับเข้าไปเป็นจำนวนมาก สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีทั้งต่อคุณแม่และลูกในท้องได้ง่ายเลย เพราะฉะนั้นเราควรต้องระวังในเรื่องของอาหารการกินกันด้วยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินสะตอได้ไหม สิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยง มีอะไรบ้าง?
คุณประโยชน์ของไข่เค็มที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้!
การที่เรากินไข่เค็มเข้าไป หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ใช่ไหมคะว่า สิ่งนี้จะส่งผลดีต่อเราในเรื่องไหนได้บ้าง บอกเลยนะคะว่าไข่เค็มก็เป็นอะไรที่มีประโยชน์อยู่เช่นเดียวกัน เพียงแค่เราอาจจะต้องกินให้ถูกวิธีและกินในปริมาณที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ
1. อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญ
บอกเลยค่ะว่าไข่เค็มเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีนอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อไหร่ที่ร่างกายของเราได้รับสารอาหารเหล่านี้เข้าไปในร่างกาย สิ่งนี้ก็จะเข้าไปช่วยส่งเสริมในเรื่องของการเจริญเติบโต ทำให้เราและลูกในท้องมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อีกทั้งยังเติบโตได้อย่างสมวัยอีกด้วยนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : โอเมก้า 6 ได้จากอะไรบ้าง? สารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อแม่ท้อง!
2. ช่วยบำรุงระบบประสาท
การที่เรากินไข่เค็มเข้าไปแล้วนั้น สิ่งนี้ก็จะเข้าไปช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากช่วยส่งเสริมในเรื่องของการทำงานแล้วนั้น สิ่งนี้ยังช่วยบำรุงสมองให้กับคุณแม่ได้ดีเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ ถือว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และไม่ควรมองข้ามเลยล่ะค่ะ
3. ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม
นอกเหนือจากสิ่งอื่น ๆ แล้วนั้น การที่เรากินไข่เค็มเข้าไปนั้น สิ่งนี้ก็ยังสามารถป้องกันโรคมะเร็งเต้านมให้กับคุณแม่ได้ดีมาก ๆ เลย เพราะฉะนั้นใครที่ไม่อยากเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม เราก็อาจจะต้องพยายามใส่ใจในเรื่องของอาหารการกินเพิ่มมากขึ้นนะคะ
4. สามารถทำเมนูได้หลายอย่าง
แน่นอนค่ะว่าวัตถุดิบอย่างไข่เค็ม ค่อนข้างที่จะนำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารได้อย่างหลากหลายมาก ๆ เพราะฉะนั้นใครที่ชอบกินไข่เค็มอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว เราก็อาจจะนำไข่เค็มไปเป็นส่วนประกอบกับเมนูอื่น ๆ ได้เลย ไม่แน่อาจจะเป็นหนึ่งในเมนูที่ใครหลายคนชื่นชอบก็เป็นได้
วิธีการทำไข่เค็มแบบง่าย ๆ
หากคุณแม่คนไหนที่อยากลองทำไข่เค็มกินเอง แต่เราก็ยังไม่มั่นใจว่าเราควรต้องเริ่มจากอะไรบ้าง หรือวิธีการทำไข่เค็มนั้นยากไหม ขอบอกเลยนะคะว่าไม่ยากเลย ส่วนจะมีวิธีการทำยังไงบ้าง เรามาดูไปพร้อมกันเลยดีกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินเกาลัดได้ไหม กินแล้วมีประโยชน์หรือเปล่า? มาค้นหาคำตอบกัน!
ส่วนผสม
- ไข่เป็ด 4 ใบ
- เกลือ 100 กรัม
- น้ำส้มสายชู
ขั้นตอนการทำ
1. อย่างแรกที่ทำเลยให้เราทำการล้างไข่เป็ดให้สะอาด ซึ่งขั้นตอนการล้างเราจะต้องทำการค่อย ๆ ล้าง พยายามไม่ให้ไข่เป็นคราบ และไม่ให้มีเศษฝุ่นละอองติดอยู่บริเวณไข่เป็ดนะคะ
2. ขั้นตอนต่อมาให้เราทำการเตรียมภาชนะไว้ให้เรียบร้อย โดยอาจจะเลือกเป็นชามใหญ่ พร้อมกับนำไข่เป็ดที่ผ่านการล้าง หรือทำความสะอาดมาเรียบร้อยแล้วมาวางลงไปในชามที่เตรียมไว้
3. จากนั้นให้เราทำการเทน้ำส้มสายชูลงไปในภาชนะ ซึ่งขั้นตอนการเทนั้นให้เราทำการเทลงไปให้ท่วมไข่เป็ด พร้อมกับแช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที
4. เมื่อถึงเวลาที่กำหนดให้เราทำการพลิกไข่เป็ดอีกด้านหนึ่ง พร้อมกับทำการแช่ทิ้งไว้อีกรอบ ซึ่งการแช่นั้นเราก็จะทำการแช่ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีด้วยเช่นเดียวกัน
5. ขั้นตอนต่อมาให้เราทำการเตรียมจานไว้ประมาณ 1 ใบ จากนั้นให้ใส่เกลือลงไป พร้อมกับนำไข่เป็ดที่ผ่านการแช่มาแล้ว มาทำการคลุกเกลือให้ทั่ว ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนหมด
6. จากนั้นเราก็จะนำไข่เป็ดที่ผ่านการคลุกเกลือมาแล้ว มาใส่เก็บไว้ในกล่องถนอมอาหาร เมื่อใส่ครบแล้วเรียบร้อยแล้ว เราก็จะทำการปิดฝาให้แน่น และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เพียงเท่านี้เราก็จะได้ไข่เค็มพร้อมนำมารับประทานแล้วล่ะค่ะ
เทคนิคการเก็บไข่เค็มให้ได้นานที่สุดทำอย่างไร?
หลายคนคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมคะว่า การที่เราจะเก็บไข่เค็มเอาไว้กินได้นาน ๆ นั้น เราควรมีขั้นตอนและวิธีการเก็บยังไงบ้าง เอาเป็นว่าเรามาดูเทคนิคการเก็บไข่เค็มกันเลยดีกว่าค่ะ
1. เรื่องอุณหภูมิ
อย่างแรกที่เราควรคำนึงถึงเพื่อที่จะได้เก็บไข่เค็มไว้นาน ๆ นั่นคือเรื่องของอุณหภูมิ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะเก็บไข่เค็มไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ควรเป็นอุณหภูมิที่มากจนเกินไป เพราะสิ่งนี้จะทำให้ไข่เค็มของเราเกิดการเน่าเสียได้ง่าย ทางที่ดีเราควรที่จะเลือกเก็บไข่เค็มไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสมจะดีกว่า
2. เลือกที่เก็บให้เหมาะสม
นอกเหนือจากเรื่องอุณหภูมิแล้วนั้น เราอาจจะต้องทำการเลือกเก็บไข่เค็มให้เหมาะสมมากที่สุด โดยเฉพาะใครที่ชอบนำไข่เค็มมาประกอบทำเป็นเมนูอาหาร แต่ก็ยังหลงเหลือวัตถุดิบของไข่เค็มในบางส่วน ซึ่งต้องบอกว่าเราไม่ควรที่จะวางใส่จานไว้เฉย ๆ นะคะ เราอาจจะนำใส่ในกล่องพลาสติก และนำไปแช่ตู้เย็นไว้ก่อนจะดีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันการเน่าเสียของตัวไข่เค็มนั่นเองค่ะ
3. ปอกไข่เค็มในปริมาณที่พอเหมาะ
ก่อนที่เราจะนำไข่เค็มมาเป็นส่วนประกอบในการทำอาหารนั้น สิ่งที่เราควรคำนึงถึงต่อมาเลยคือ เราควรทำการปอกไข่เค็มเฉพาะที่เราจะกินเพียงเท่านั้น ไม่ควรปอกไข่เค็มทิ้งไว้ เพราะสิ่งนี้อาจจะทำให้ไข่เค็มของเราเสียรสชาติ และดีไม่ดีก็อาจจะทำให้ไข่เค็มเกิดการเน่าเสียได้ง่ายเช่นเดียวกัน
ไข่เค็มเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และค่อนข้างนำมาประกอบทำเป็นเมนูอาหารได้อย่างหลากหลาย จึงไม่แปลกที่คุณแม่และใคร ๆ ก็ค่อนข้างที่จะชอบและติดใจในรสชาติของไข่เค็มเป็นอย่างมาก เอาเป็นว่าหากคุณแม่คนไหนที่ชอบกินไข่เค็มกันอยู่แล้ว เราก็อาจจะกินได้ตามปกติ เพียงแค่เราอาจจะลดปริมาณการกิน และพยายามกินให้พอเหมาะต่อร่างกาย เพื่อที่สิ่งเหล่านี้จะได้ส่งผลดีทั้งต่อคุณแม่และลูกในท้องนั่นเองค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องกินกะปิได้ไหม สิ่งที่แม่ควรต้องระวัง คืออะไรบ้าง?
คนท้องกินปลาหมึกได้ไหม กินแล้วปลอดภัยหรือเปล่า? มาดูกัน
คนท้องกินน้ำกระเจี๊ยบได้ไหม เครื่องดื่มอร่อยที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม!
